องค์ที่ 5 " นาย - เภอ นักฝันลั้ลลา เมื่อ มิยาซาว่า กำลังจะพา ซรวย "
oooooooooooooooooooooo
ลั้นลา แปลว่า อารมณ์ดี มีความสุข ประมาณว่า ดีใจ จนกระโดดตัวลอย
ซรวย - ออกเสียงตาม ราชบัณฑิต " ซะ - รวย "
ซรวย - ออกเสียงตาม ราษฏร์นิยม " ซวย "
หนองญาติ เป็นหนองน้ำที่เกิดตามธรรมชาติมาเมื่อหลายร้อยปีก่อน จึงเข้าลักษณะ
เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามประมวลกฏหมายแพ่งและพานิชย์ มาตรา 1304
" ที่ชายตลิ่ง ทางน้ำ ทางหลวง ทะเลสาบ " จะโอนแก่กันมิได้ เว้นแต่อาศัยกฏหมายเฉพาะ
ประมวลกฏหมายที่ดิน กำหนดให้ " อธิบดีกรมที่ดิน " สังกัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ดูแล
ตามมาตรา 8 และมี กรมการอำเภอ มีหน้าที่ปกปักรักษา ตาม พรบ.ลักษณะปกครองท้องที่
โดยมีนายอำเภอท้องที่ เป็นผู้ดูแลให้การคุ้มครองป้องกันและการออกหนังสือสำคัญ ( นสล.)
ดังนั้นหาก นายอำเภอ คนใด แยกแยะไม่ออก ระหว่าง " ที่ดิน " กับ " หนองน้ำ "
ก็ต้องให้ต้นสังกัด คือ มหาดไทย ตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนว่า
" แกล้งไม่รู้ไม่เข้าใจ หรือ โง่เขลาเบาปัญญา หรือ ฟั่นเฟือน "
oooooooooooooooooooooo
ลั้นลา แปลว่า อารมณ์ดี มีความสุข ประมาณว่า ดีใจ จนกระโดดตัวลอย
ซรวย - ออกเสียงตาม ราชบัณฑิต " ซะ - รวย "
ซรวย - ออกเสียงตาม ราษฏร์นิยม " ซวย "
หนองญาติ เป็นหนองน้ำที่เกิดตามธรรมชาติมาเมื่อหลายร้อยปีก่อน จึงเข้าลักษณะ
เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามประมวลกฏหมายแพ่งและพานิชย์ มาตรา 1304
" ที่ชายตลิ่ง ทางน้ำ ทางหลวง ทะเลสาบ " จะโอนแก่กันมิได้ เว้นแต่อาศัยกฏหมายเฉพาะ
ประมวลกฏหมายที่ดิน กำหนดให้ " อธิบดีกรมที่ดิน " สังกัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ดูแล
ตามมาตรา 8 และมี กรมการอำเภอ มีหน้าที่ปกปักรักษา ตาม พรบ.ลักษณะปกครองท้องที่
โดยมีนายอำเภอท้องที่ เป็นผู้ดูแลให้การคุ้มครองป้องกันและการออกหนังสือสำคัญ ( นสล.)
ดังนั้นหาก นายอำเภอ คนใด แยกแยะไม่ออก ระหว่าง " ที่ดิน " กับ " หนองน้ำ "
ก็ต้องให้ต้นสังกัด คือ มหาดไทย ตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนว่า
" แกล้งไม่รู้ไม่เข้าใจ หรือ โง่เขลาเบาปัญญา หรือ ฟั่นเฟือน "
นายอำเภอท้องที่ นอกจากมีหน้าที่ดูแลรักษาที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินแล้ว
ยังเป็นผู้ตรวจสอบการออกโฉนดที่ดิน และเป็นพยานชี้แนวเขตที่ดินด้วย
แต่ ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นมาแล้วก็คือ มีอดีตนายอำเภอหลายคน ที่ไม่ใช่คนในท้องที่
ครอบครองที่ดินแปลงสวยๆ แปลงใหญ่ๆ ในพื้นที่ ที่ไม่น่าจะมีสิทธิ์ทำได้
ลองมีคนขุดคุ้ยขึ้นมาอีกที สิ รับรองจะมีคนติดคุกนับสิบ เป็นแน่
ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดิน
อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
เป็น ภารกิจที่สำคัญอันหนึ่ง หรือ ที่สุด ของบรรดานักปกครอง " นายอำเภอ " ต้องใส่ใจ
ว่า บรรดา ห้วย หนอง คลอง บึง นี่ มันเป็น " ที่สาธารณะ " ที่ต้องป้องกันไม่ให้ใครบุกรุก
แต่ในกรณี " หนองญาติ " กลับกลายเป็นว่า " ผู้ดูแล " กลับเป็น " ผู้บุกรุก " เสียเอง
จะว่า คนคิดทำ มัน โง่เง่า บ้าระห่ำ บ้าอำนาจ เหิมเกริม หรือ ประพฤติชั่ว ก็ถูก ทุกข้อ
ooooooooooooooooooooo
" เปิดเวที "
" ปฐมบท " ของ การบุกรุกเข้าครอบครอง " หนองญาติ " โดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย
ที่ว่าการอำเภอเมืองนครพนม ที่ถนนอภิบาลบัญชา เทศบาลเมืองนครพนม
ในอดีต ปี 2542 ก่อนจะถูกย้ายไปหนองญาติ
โดย มีตัวเอกของเรื่อง เป็นนายอำเภอเมืองฯ ขณะนั้น ชื่อ ชวลิต วิชยสุทธิ์
ตั้งเรื่องว่า " อำเภอเมืองเดิม ก่อสร้างมานาน 30 ปี มีสภาพเก่าทรุดโทรมและคับแคบ "
( เสียดายที่หนังสือชี้แจงฉบับนั้นยังหาไม่เจอ )
จึงมีหนังสือ ( ด่วนที่สุด ) เมื่อวันที่ 29 มึค. 2542 ไปเรียน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม
ถึงเรื่อง " การย้ายที่ว่าอำเภอเมืองนครพนม "
อ้างว่า ได้รับ " การประสานเป็นการภายใน " ( งานสำคัญใหญ่บะฮึ่มขนาดนี้ ก็ยังมีเป็นการภายใน ) จาก ผอ.ส่วนระบบการปกครอง สำนักบริหารการปกครองท้องที่ กรมการปกครอง " ว่า สมควรได้รับงบประมาณในการก่อสร้างที่ว่าการอำเภอเมืองหลังใหม่ " นี่มันงุบงิบมั๊ย "
หนังสือเลขที่ นพ. 0118 / 1535 ลงวันที่ 29 มีนาคม 2542

บันทึกรายงานการประชุม หัวหน้าส่วนราชการอำเภอเมืองนครพนม
เมื่อ วันที่ 29 มีนาคม 2542 เวลาประชุม 09.00 น
ณ ห้องประชุมอำเภอเมืองนครพนม

บันทึกรายงานการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหนองญาติ
ครั้งที่ พิเศษ / 2542 วันที่ 29 มีนาคม 2542 เวลาประชุม 17.00 น ( วันเดียวกัน )
ประชุม ณ ห้องประชุม สภาฯ อบต.หนองญาติ
ลองคิดดูว่า อำเภอเมือง ที่มีหน้าที่สำคัญที่ต้องให้การบริการความสะดวกแก่ประชาชน
มีการประชุมเพื่อขอมติเห็นชอบ การย้ายออกไปอยู่นอกเขตเทศบาล สำเร็จภายใน " หนึ่งวัน "
" เช้า ประชุมที่อำเภอเมืองนครพนม บ่าย ประชุมที่ อบต.หนองญาติ "
ถือ เป็นการทำงาน " งานใหญ่ " ของหน่วยราชการ ที่ด่วนที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย
( ส่วนหนังสือการประชุมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัด วันที่ 30 มีค. 2542 หาไม่เจอ )
หนังสือ " บันทึกข้อความ " ประทับตรา ด่วนมาก ลงวันที่ 31 มีนาคม 2542
ถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เรื่อง การย้ายที่ว่าการอำเภอเมืองนครพนม
ว่าได้รับความเห็นชอบจาก หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดและ อบต.หนองญาติแล้ว
ทางจังหวัดนครพนม มีหนังสือไปยัง ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม
เพื่อขอ มติสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ให้ความเห็นชอบการย้ายที่ว่าการอำเภอเมืองนครพนม อีกทางหนึ่ง ลงวันที่ 2 เมษายน 2542
ทั้งที่ นายอำเภอเมืองฯ คนนั้น ได้มีหนังสือ ลงวันที่ 31 มีนาคม 2542 มาถึง
เจ้าหน้าที่อำเภอ ฯ ให้เตรียมตัวไปชี้บริเวณที่จะก่อสร้างฯ กับผู้รับเหมา ในวันที่ 23 เมษายน
( เสียดายที่หาหนังสือฉบับนี้ไม่เจอ )
แสดงว่า " แผนการที่จะย้ายและจะสร้างที่ว่าการอำเภอหลังใหม่นั้น เตรียมมานานแล้ว "
ซึ่งก็น่าจะรวมถึงแผน หลอมลวง สถาบันต่างๆที่มี เพื่อจัดตั้ง " มหาวิทยาลัยนครพนม " ด้วย
ขยัน จริง จิง พ่อคุณ เอ๊ย
ภาพอดีต " ที่ว่าการอำเภอเมืองฯ " ในความทรงจำ
อดีต ที่ว่าการอำเภอเมืองนครพนม ปัจจุบัน " สำนักงานอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม "
ที่ใช้เงินภาษีประชาชน มาย้อม " ความเก่าทรุดโทรม " ด้วยเงินถึง 11 ล้าน
ผลงานของคนๆเดียวกัน ที่ชื่อ " ชวลิต วิชยสุทธิ์ "
ที่รวมหัวกันกับ สส.นครพนม คนอื่น หักดิบ มติ ครม.รัฐบาลทักษิน
ออก พรบ.มหาวิทยาลัยนครพนม " แบบ ขออย่างหนึ่ง แล้วออกกฏหมายอย่างหนึ่ง "
ซึ่งเรื่องของ " มหาวิทยาลัยนครพนม " นี้ แม้จะมีพรบ. และ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
เรื่องก็คงยังไม่จบ เพราะพฤติกรรม " ลิงหลอกเจ้า " กับ มติ ครม. นี้
จะเสนอให้ " รัฐบาลใหม่ " รื้อมาแก้ไขให้ตรงกับการเสนอของคณะกรรมการกลั่นกรองฯอีกที
เสาไฟที่เห็นอยู่ข้างหน้า คือ โครงการบ้านพักข้าราชการ ข้างอำเภอเมืองฯ ที่ต้องพับไป
ที่ว่าการอำเภอเมืองนครพนม หลังใหม่นี้ ชวลิต วิชยสุทธิ์ บอกกลางห้องประชุมฯ ว่า
" สร้างด้วยเงินมิยาซาว่า ที่ได้มาเร็ว ก็ต้องรีบเอามาใช้อย่างเร่งด่วน "
( ส่วน จะผิดจะถูก ค่อยว่ากันทีหลัง - เราช่วยต่อให้ )
พูดถึง อนาคตงานปกครองท้องที่ ของมหาดไทยนี้ เมื่อการกระจายอำนาจให้หน่วยราชการท้องถิ่น มีความก้าวหน้ามากขึ้น แข็งแรงยิ่งขึ้น และประชาชนมีความใว้วางใจ
บทบาทหน้าที่ของหน่วยงานปกครอง " อำเภอ " นี้ ก็จะต้องถูกลดลงอย่างแน่นอน
ต่อไป การดูแลประชาชนในท้องถิ่น ก็จะเป็นงานของ อบจ. เทศบาล และ อบต. ทั้งหมด
ก็ไม่มีความจำเป็นอะไร ที่ต้องมาขยายหน่วยงาน ที่ยังไม่รู้ แม้อนาคตของตัวเอง
ที่ว่าการอำเภอเมืองนครพนม ผลงานอัปยศอมตะนิรันดร์การของอดีตข้าราชการไทย
ที่ชื่อ " ชวลิต วิชยสุทธิ์ " อดีต นายอำเภอ ปัจจุบัน ก็เป็น อดีต สส.นครพนม
นักปกครองระดับสูง ( ได้ไงวะ ) ที่สายตาแยกแยะ " หนองน้ำ " กับ " ที่ดิน " ไม่ออก
ว่าแต่ว่า เขาคนนี้ เป็นใครมาจากไหน โด่งดังยังไง แล้วดอดมาเป็น สส.แต่เมื่อไหร่ ล่ะ
ก็ต้องไปถามชาวบ้านชาวเมืองเขาดูว่า รู้จัก สส.คนนี้ใหม เป็นคนบ้านไหน แล้วมีดียังไง
ก็แปลก ที่ไม่เห็นจะมีใคร ตอบได้ ฉาดฉาน เต็มปากเต็มคำซักคน
เออ ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าแล้ว ไปเลือกเป็น สส. ได้ไง หนอ คนนคร เอ๊ย
แต่มีคนรู้ดีมากระซิบ " ก็เป็นมันทั้งนายอำเภอ และ เด็กหิ้วกระเป๋าให้ นายพล ไง พอป๊ะ
การดับฝัน ของอดีตข้าราชการ นักปกครองระดับสูง ของกระทรวงมหาดไทย ผู้นี้
ผู้คิดจะต่อยอดความฝันของตัวเอง ให้ " หนองญาติ " มีสภาพใกล้เคียง " บึงฉวาก "
ก็นับเป็นความโชคดี ของชาวนครพนม และ คนทั้งประเทศ ที่จะได้เห็น หนองญาติ คงอยู่ต่อไป
หาไม่แล้ว ป่านนี้คงมีอาคารราชการนับสิบๆตั้งปิดล้อม " หนองญาติ " เต็มไปหมด
เพียงแค่ 5 ฉากกับ 1 ตัวละครเอก ไคลแม๊กซ์ ก็ใกล้ถึง " บ้านสีขาว " ที่หนองเซา เข้าไปทุกที
ส่วน ตัวเอกของเรื่อง ถ้าคิด จะหาสถานที่สำหรับ " การหัวเราะให้ฟันร่วงหมดปาก "
ก็เชิญเลือกล่วงหน้าได้เลยนะว่าที่ไหน เพราะเวลาใกล้จะมาถึงแล้ว
" ปิดม่าน "
ตอน " นาย - เภอ นักฝันลั้นลา เมื่อ มิยาซาว่า กำลังจะพา ซรวย "